รู้จัก! วัคซีนป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์ หรือ ไข้รากสาดน้อย

โรคไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า ซัลโมเนลล่า ไทฟี่ (Salmonella typhi) ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ หากไม่ได้รับการรักษาและเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ก็อาจนำไปสู่ “ภาวะไตวาย” ได้!

 

สัญญาณเตือนแบบนี้ เสี่ยง “ไข้รากสาดน้อย”

อาการของโรคไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย ได้แก่ ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย อาจมีผื่น ถ่ายเหลวหรือท้องผูก ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษา จะมีไข้นานถึง 3-4 สัปดาห์ ในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงขึ้น เช่น เลือดออกในทางเดินอาหาร ลำไส้ทะลุ หรือไตวายได้ ในขณะที่ผู้ป่วยบางราย…แม้จะหายจากโรคแล้ว แต่ก็ยังสามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นต่อไปได้

 

วัคซีนป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์ชนิดฉีด คืออะไร ?

เป็นวัคซีนที่ทำมาจากเชื้อไทฟอยด์ที่ตายแล้ว ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ทำให้เกิดโรคไข้ไทฟอยด์ในผู้ที่ได้รับวัคซีน เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ และเด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป

 

ผู้ที่ “ควร” ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์

    • ผู้ที่จะเดินทางไปยังถิ่นที่มีการระบาดของโรค เช่น ประเทศอินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน ประเทศในแถบละตินอเมริกา หรือแอฟริกา โดยควรรับวัคซีนก่อนเดินทางอย่างน้อย 2 สัปดาห์
    • ผู้ที่ใกล้ชิดหรืออาศัยอยู่กับผู้ที่เป็นพาหะของโรคไข้ไทฟอยด์
    • เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการที่ทำงานเกี่ยวกับเชื้อไทฟอยด์
    • สำหรับผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงต้องการสัมผัสเชื้อควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 1 เข็ม ทุก 2-3 ปี
  •  
  •  

 

ผู้ที่ “ควรงด” รับวัคซีนป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์

    • เคยมีอาการแพ้อย่างรุนแรงจากการฉีดวัคซีนป้องกันไข้ไทฟอยด์ในครั้งก่อน
    • หากมีไข้ เจ็บป่วยเฉียบพลัน ควรเลื่อนการรับวัคซีนออกไปก่อน รอให้หายป่วยก่อนจึงค่อยมารับวัคซีน กรณีเป็นหวัดเล็กน้อย ไม่มีไข้ สามารถรับวัคซีนได้

 

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์

    • อาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ อย่างไรก็ตามอาการแพ้อย่างรุนแรงจากวัคซีนพบได้น้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่ของผู้ที่รับวัคซีนรวมป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์มักไม่มีปัญหาใดๆ
    • ปฏิกิริยาที่อาจพบหลังฉีดวัคซีน ได้แก่ ปวด บวมแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน
    • อาจพบไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย แต่มักไม่รุนแรง และหายได้เองใน 1-2 วัน
    • หากมีอาการปวด บวมแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีนสามารถประคบเย็นได้ และหากมีไข้ต่ำๆ สามารถรับประทานยาลดไข้ได้ แต่ถ้ามีอาการผิดปกติอื่นนอกเหนือจากนี้ควรปรึกษาแพทย์
  •  
  •  

 

หมายเหตุ :

    • ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ เกี่ยวกับการให้วัคซีนชนิดนี้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร อาจให้ได้ในกรณีจำเป็น
    • แม้ได้รับวัคซีนแล้ว ก็ยังควรรับประทานอาหารและน้ำที่สะอาด เพราะหากได้รับเชื้อจำนวนมาก ก็ยังสามารถติดโรคได้
    • วัคซีนชนิดนี้ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อจาก เชื้อซัลโมเนลล่า ชนิดอื่นได้
    • หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์

Cr. https://www.phyathai.com/th/article/typhoid-vaccine